งานสร้างชีวิต กับงานเพื่อชีวิต คนส่วนใหญ่ในสังคมเลือกทำงานเพื่อชีวิต เพราะมีรายได้เร็วกว่า แต่คนบางกลุ่มในสังคมเลือกที่จะทำงานสร้างชีวิต แม้ว่ายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะเขารู้ว่าอนาคตข้างหน้าต้องสดใสแน่นอน
บางสิ่งที่คุณค้นหา อาจจะเป็นสิ่งที่คุณมองข้ามมันมาตลอดก็เป็นได้ ถ้าจะยื่นคำถามว่า “ใครอยากรวยบ้าง” ผมว่าร้อยทั้งร้อย ยกมือกันพรึบ แต่ลองถามตัวเองดูซิว่าแล้วเมื่อไรละที่เราจะรวย รวยจะรวยด้วยวิธีไหน แล้วสุดท้ายจะทำอะไรดีละถึงจะรวย เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา มนุษย์อยากจะบินเหมือนนก ก็พยายามหาวิธีต่างๆ นาๆ เพื่อจะทำให้บินได้ เช่นเอาขนนกมาติดแล้วก็ลองกระโดดเพื่อที่จะบิน และก็พยายามหาวิธีต่างๆ มากมาย ซึ่งในที่นี้จะไม่เอ๋ยถึง จนในปัจจุบันวันนี้เราสามารถบินได้เร็วกว่านกทุกตัวในโลก นั้นก็เพราะเกิดจากมนุษย์ต่างจากสัตว์ทุกชนิดในโลกใบนี้ นั้นคือมนุษย์มีความใฝ่ฝัน หรือมีแรงบันดาลใจ หรือจิตนาการ ดั่งที่ไอนต์สไตล์บอกไว้ว่า”จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้” ในอดีตที่ผ่านมา ยุคศักดินา ใครครอบครอบที่ดิน ถือว่าเป็นคนรวย ต่อมายุคอุตสาหกรรม ใครมีโรงงาน คนนั้นถือว่ารวย แต่ในยุคไอทีเช่นปัจจุบันนี้ ใครครอบครองคน คนนั้นถือว่ารวย สังเกตได้จากกูเกิ้ล มีคนเข้าไปใช้มากมาย ทำให้กูเกิ้ล yahoo ,amazon และปัจจุบันคนใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น และจะมากขึ้นทุกๆปี บางคนเข้าไปเล่นเกมส์ เล่นเฟส เล่นทวิสเตอร์ หาคู่ สั่งซื้อสินค้า อื่นๆ และเด็กในยุคไอทีเล่นเน็ตมากกว่าดูทีวี เพราะในเน็ตมีทุกอย่าง มีข้อมูลให้คุณได้searchหาได้ตลอด มันจึงมาถึงบทสรุปว่า มันมีจริงฤ กับการทำงานคีย์ข้อมูลออนไลน์ผ่านเน็ต มันจะสร้างรายได้ให้กับเราจริงฤ ฤว่ามันหลอก แต่เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่ามันมีจริง และถ้าคุณมุ่งมั่นทำงานคีย์ข้อมูลออนไลน์ผ่านเน็ตนี้จริงๆ มันก็สร้างรายได้ให้แก่คุณจริงๆ งานทุกงานต้องการความทุ่มเท เอาใจใส่ เหมือนหลักอิทธิบาท 4 ของพระพุทธเจ้า คือ
-ฉันทะ(พอใจรักใคร่ในงานที่ทำ คือ คุณต้องรักงานที่ทำ หรือไม่ก็ชอบว่างานที่ทำมันให้ในสิ่งที่คุณชอบ
-วิริยะ(ความเพียรพยายาม ไม่ล้มเลิกไปก่อน งานนี้เก่งไม่กลัว กลัวอึด ถ้าคุณยืนหยัดอดทน ทุกคนสำเร็จได้)
-จิตตะ(ไม่ทอดทิ้งในสิ่งนั้น ทำสิ่งนั้นให้เด่นชัดอยู่ในใจเสมอ เช่น คุณอยากรวย คุณก็ต้องฝั่นฝ่าอุปสรรคต่างๆ นาๆ เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริงให้จงได้ เหมือนกับนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเดินตามฝันของเขา เพราะเขามีความเชื่อว่า วันที่ดินกลบหน้านั้นแหละคือวันที่เราหยุดฝัน
-วิมังสา (ดูแลสอดส่องงานที่ทำว่ามันบกพร่อง ตรงไหน ต้องแก้ไขตรงจุดไหนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ) แต่บางครั้งการขยันผิดที่ ก็ไม่สามารถสร้างความร่ำรวยให้กับคุณได้ “ขยันผิดที่สิบปีก็ไม่รวย” เช่น การเป็นลูกจ้างเขา จะให้รวยนั้นยาก ถ้าเราไม่เป็นเจ้าของกิจการเอง แต่เมื่อเราแยกออกมา เราก็ต้องมีทุน ต้องจ้างลูกน้อง คนไหนที่ยังไม่เป็นงานเราก็ต้องสอนให้เป็น แต่อนิจจาเราสอนให้มันเก่ง พอมันเก่งแล้วก็ออกไปตั้งกิจการแข่งกับเรา ไหนจะต้องแข่งกับคู่แข่งธุรกิจ ใครทุนหนากว่าก็ชนะไป ดูง่ายๆ ร้านโชฮ่วย กับเซเว่น เซเว่นไปเปิดที่ไหนร้านโชฮ่วยก็ต้องปิดไปตามๆ กัน เพราะเซเว่นมันเปิด 24 ชั่วโมง และมาดูกันว่าจะทำอาชีพอะไรดี ถ้าผมบอกว่ายุคนี้มันต้องทำเป็นเครือข่าย (multi level) ฟังดูมันคุ้นๆ เหมือนธุรกิจขายตรงทั่วไปหรือเปล่า ต้องไปชวนคน ง้อคน ประชุม ที่สำคัญต้องขายสินค้า หลายคนเบ้หน้าหนี มองว่ามันเป็นงานหน้าเบื่อ ต้องคนพูดเก่ง มีวาทศิลป์ถึงจะทำได้ แต่งานนี้เป็นการปฏิวัติงานอื่นๆ แน่นอน แค่คุณทำหน้าที่กระจายสื่ออย่างเดียว ได้แก่ การลงประกาศฟรี โพสต์กระทู้ เขียนเวป กระจายสื่ออื่นๆ ไม่ต้องขายของ ส่วนหน้าที่อื่นๆ มีทีมงานคอยช่วยคุณ คุณทำงานแค่โพส และก็โพส คิดเป็นเนื้องาน 20 % อีก 80 % ระบบทำงานให้ เพราะเราทำงานกันเป็นทีม แบ่งหน้าที่กันทำ ใครถนัดแบบไหนก็ทำงานด้านนั้น และสำเร็จไปด้วยกัน อย่างนี้น่าสนไม๊คะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น